สิงหาคม 17, 2553

คำพิพากษาฎีกา กฎหมายอาญา

วันนี้หยิบเอาคำพิพากษาฎีกากฎหมายอาญามาฝากค่ะ



ฎ.8335/2547 ขณะที่เจ้าพนักงานตรวจค้นยาเสพติดให้โทษ จำเลยลง

จากเครื่องบินมาอยู่ในอาคารผู้โดยสารของท่าอากาศยานกรุงเทพ เพื่อจะไป

ขึ้นเครื่องบินอีกลำหนึ่ง จำเลยจึงเข้ามาในราชอาณาจักรไทยแล้ว เมื่อจำเลยมี

ยาเสพติดให้โทษไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งตามกฎหมายไทย

บัญญัติว่าเป็นความผิดจำเลยจึงเป็นผู้กระทำความผิดในราชอาณาจักร

ต้องรับโทษตามกฎหมายไทยตามปอ. มาตรา 4

ข้อสังเกต ข้อเท็จจริงตามฎีกานี้ ปรากฏว่าผู้กระทำความผิดถูกจับในข้อหามี

ยาเสพติดให้โทษไว้ในครอบครอบเพื่อจำหน่ายในขณะที่ผู้กระทำผิดลงจาก

เครื่องบินมาอยู่ในอาคารผู้โดยสารของท่าอากาศกรุงเทพแล้ว จึงต้องด้วย

กรณีตามมาตรา 4 วรรคแรก


ฎ 6742/2547 การที่จำเลยซึ่งอยู่ในฝั่งประเทศไทยตะโกนข้ามแม่น้ำเหืองที่

กั้นพรมแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตย

ประชาชนลาว สั่งซื้อเมทแอมเฟตามีนและกัญชาจากพวกของจำเลย

ที่อยู่ที่ฝั่งลาว โดยจำเลยไม่ได้เดินทางออกนอกประเทศ แม้พวกของจำเลย

จะนำเมทแอมเฟตามีนและกัญชาดังกล่าวข้ามเขตมามอบให้ก็น่าเป็นเพราะ

จำเลยสั่งซื้อ ถือได้ว่าจำเลยเป็นผู้สั่งซื้อ ถือได้ว่าจำเลยเป็นผู้ก่อให้พวกล

ของจำเลยนำเข้าซึ่งยาเสพติดให้โทษตาม ปอ.มาตรา 84 มิใช่เป็นตัวการ

ร่วมกระทำความผิดด้วยกันตามมาตรา 83ดังที่โจทก์ฟ้อง ซึ่งเป็นการ

แตกต่างกันในข้อสาระสำคัญ ย่อมลงโทษจำเลยฐานเป็นผู้ใช้ให้

กระทำความผิดไม่ได้ตาม ป.วิ.อ มาตรา 192 วรรคสอง   แต่การตะโกน

สั่งซื้อของจำเลยดังกล่าว ถือได้ว่าเป็นความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุน

การกระทำความผิดตาม ปอ.มาตรา 86 ซึ่งศาลมีอำนาจลงโทษฐานเป็น

ผู้สนับสนุนได้



ฎ 4905/2548 การจะถือว่าความผิดใดได้กระทำในราชอาณาจักรตาม

ปอ.มาตา 5 ก็ต่อเมื่อส่วนหนึ่งส่วนใดของความผิดได้กระทำในราชอาณาจักร

หรือผลแห่งการกระทำเกิดในราชอาณาจักร คดีนี้โจทก์บรรยายฟ้องระบุว่าเหตุ

ทุกข้อหาเกิดที่บริเวณตำบลใดไม่ปรากฏชัด อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร

แต่ทางนำสืบของโจทก์ได้ความว่า เหตุเกิดในเขตต่อเนื่องของประเทศไทย

ไม่มีส่วนหนึ่งส่วนใดของความผิดในราชอาณาจักรและผลแห่งการกระทำ

ก็ได้เกิดในราชอาณาจักร จึงถือว่าจำเลยกระทำความผิดใน

ราชอาณาจักรไม่ได้



ฎ 6516/2537 ความผิดฐานปล้นทรัพย์และฆ่าผู้อื่นเกิดขึ้นในทะเลหลวงนอก

ราชอาณาจักร ศาลไทยจะลงโทษผู้กระทำผิดที่เป็นคนไทยในข้อหาความผิด

ต่อชีวิตตามมาตรา 8 (4) ได้ต่อเมื่อผู้เสียหายได้ร้องขอให้ลงโทษตาม ปอ.

มาตรา 5 (2) ดำเนินการร้องขอให้ศาลไทยลงโทษ จึงลงโทษจำเลยฐานฆ่า

ผู้อื่นไม่ได้

ข้อสังเกต คดีนี้ปัญหาที่ต้องวินิจฉัย คือ ศาลไทยจะลงโทษจำเลยใน

ความผิดฐานใดได้บ้าง ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นเป็นความผิดต่อชีวิต ศาลไทย

จะลงโทษผู้กระทำความผิดที่เป็นคนไทยตาม ปอ.มาตรา 8 (4)ได้ ต่อเมื่อ

ผู้เสียหายได้ร้องขอให้ลงโทษตาม ปอ.มาตรา 8 (ก) แต่คดีนี้ไม่ปรากฏ

แน่ชัดว่าผู้ตายเป็นใคร ทั้งไม่มีผู้มีอำนาจจัดการแทนตามมาตรา 5(2)

ได้ดำเนินการร้องขอให้ศาลลงโทษ จึงลงโทษจำเลยฐานฆ่าผู้อื่นไม่ได้

 ส่วนความผิดฐานปล้นทรัพย์และพยายามฆ่า ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์จำเลย

ซึ่งกระทำความผิดในข้อหาปล้นทรัพย์และพยายามฆ่าผู้เสียหาย ศาลไทย

จึงมีอำนาจลงโทษจำเลยในข้อหาความผิดทั้งสองฐานนี้ได้


ฎ 801/2505 ประชุมใหญ่ คดีที่จำเลยเป็นคนสัญชาติไทย กระทำผิดฐาน

ปล้นทรัพย์นอกราชอาณาจักร ซึ่งผู้เสียหายได้ร้องขอให้ลงโทษจำเลยภายใน

ราชอาณาจักร ต้องตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 8 นั้น โจทก์ก็ไม่มี

หน้าที่ต้องนำสืบแสดงว่าไม่มีข้อห้ามมิให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 10 อีก



การริบทรัพย์สิน

ฎ. 6636/2551 ซองกระสุนปืนเป็นอาวุธปืนตามความหมายแห่ง

พรบ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียม

อาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 4(1) ประกอบกฎกระทรวง ฉบับที่ 3 (2491)

ออกตามความใน พรบ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง

และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 ข้อ 1 แม้ซองกระสุนปืนของกลางสามารถ

ใช้ร่วมกับอาวุธปืนของกลางที่นายทะเบียนออกใบอนุญาตให้ได้ก็ตาม

หากเป็นซองกระสุนปืนชนิดที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ตาม

กฎกระทรวงฉบับที่3 (พ.ศ.2491) ออกตามความใน พรบ.อาวุธปืน

เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490

ข้อ 2 (12) จำเลยจึงมีความผิดฐานมีอาวุธปืนที่นายทะเบียนจะออก

ใบอนุญาตให้ไม่ได้ตาม พรบ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด

 ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 55, 78 วรรคหนึ่ง

 และซองกระสุนปืนของกลางเป็นทรัพย์สินที่กฎหมายบัญญัติไว้ว่าผู้ใดมีไว้

เป็นความผิด จึงให้ริบตาม ปอ.มาตรา 32



ฎ 7766/2544 อาวุธปืนของกลางเป็นของผู้ตาย การที่จำเลยหยิบอาวุธปืน

ของผู้ตายที่วางอยู่บริเวณที่เกิดเหตุขึ้นมายิงผู้ตายนั้น อาวุธปืนดังกล่าวยังอยู่

ในความครอบครองของผู้ตาย จำเลยไม่มีความผิดฐานมีอาวุธปืนไว้ใน

ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่เมื่ออาวุธปืนของกลางเป็นอาวุธปืน

ไม่มีทะเบียน ผู้ใดมีไว้เป็นความผิดจึงต้องริบตาม ปอ.มาตรา 32

ข้อสังเกต อาวุธปืนไม่มีทะเบียน เป็นทรัพย์ที่กฎหมายบัญญัติไว้ว่าผู้ใด

มีไว้เป็นความผิด ศาลจึงริบได แม้มิใช่ของผู้กระทำผิด แต่กหากเป็น

อาวุธปืนมีทะเบียนเพียงแต่ผู้ใช้ไม่ได้รับอนญาตให้พกพา ไม่ถือเป็นทรัพย์

ที่ทำหรือมีไว้เป็นความผิดอันจะพึงริบได้ ตามปอ.มาตรา 32


ฎ 5834/2550 ความผิดฐานประกอบกิจการให้เ แลกเปลี่ยน หรือจำหน่าย

เทปหรือวัสดุโทรทัศน์โดยไม่ได้รับอนุญาต สาระสำคัญของการกระทำ

ความผิดอยู่ที่การไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน ดังนั้น

แผงเหล็กตั้งสินค้า สมุดบันทึกรายรับรายจ่าย ตะกร้า กล่องพลาสติก

ซองพลาสติก ผ้าปูโต๊ะ และ แผ่นซีดีก๊อปปี้ของกลางจึงมิใช่ทรัพย์สิน

ที่จำเลยทั้งสามได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำ

ความผิดฐานนี้ที่ศาลจะมีอำนาจริบตาม ปอ.มาตรา 33 (1)

สิ่งบันทึกเสียงและสิ่งบันทึกภาพและเสียงที่เจ้าพนักงานยึดไว้เป็นของ

กลางในคดีนี้มีทั้งที่ทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้เสียหายกับไม่ละเมิดสิทธิ์

ของผู้เสียหายรวมอยู่ด้วย และไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสามได้เงินสด

 1,750 บาท ของกลางมาโดยการขายงานที่ละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้เสียหาย

ในคดีนี้ โดยมีการวางแผนล่อซื้อ จึงไม่ชัดเจนว่าจำเลยทั้งสามได้เงินจำนวน

ดังกล่าวมาจากการขายงานที่ละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้เสียหายที่เจ้าพนักงาน

ยึดไว้เป็นของกลางในคดีนี้ หรือเป็นเงินที่จำเลยทั้งสามได้มาจากการ

ขายงานอันละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้เสียหายหรือของผู้อื่นก่อนหน้านี้

ทั้งความผิดฐานประกอบกิจการให้เช่า แลกเปลี่ยนหรือจำหน่ายเทปหรือ

วัสดุโทรทัศน์โดยไม่ได้รับอนุญาตอยู่ที่จำเลยทั้งสามไม่ได้รับอนุญาตจาก

นายทะเบียน เทปหรือวัสดุโทรทัศน์ที่จำเลยทั้งสามร่วมกันมีไว้เพื่อ

ประกอบกิจการดังกล่าว มิใช่ทรัพย์สินที่ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำ

ความผิดฐานนี้ ดังนั้น  แม้เงินที่จำเลยทั้งสามได้รับมาเป็นค่าตอบแทน

การให้เช่า แลกเปลี่ยน หรือจำหน่ายเทปหรือวัสดุโทรทัศน์ตามฟ้อง ก็ไม่ใช่

ทรัพย์สินที่จำเลยทั้งสามได้มาโดยการกระทำความผิดฐานนี้ จึงไม่อาจริบ

ตาม ปอ.มาตรา 333 (2)เช่นกัน




ฎ 671/2548 รถยนต์ของกลางเป็นพาหนะที่คนต่างด้าวโดยสาร เพื่อพา

คนต่างด้าวให้พ้นจากการจับกุม ไม่ใช่ทรัพย์สินที่ทำหรือมีไว้เป็นความผิด

ตามปอ.มาตรา 32 ทั้งไม่ใช่ทรัพย์สินซึ่งได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้กระทำ

ความผิดตามปอ.มาตรา 33(1) รถยนต์ของกลางโดยสภาพมีไว้เพื่อบรรทุก

คนและสิ่งของจากที่หนึ่งไปยังที่อื่นอันเป็นวัตถุประสงค์ทั่วไป จึงริบรถยนต์

ของกลางไม่ได้




ฎ 3990/2549 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36 กำหนดให้เป็นหน้าที่ของ

เจ้าจองทรัพย์แท้จริง ซึ่งมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิด

ขอให้ศาลสั่งคืนทรัพย์สินที่ศาลสั่งให้ริบภายในหนึ่งปีนับแต่วันคำพิพากษา

ถึงที่สุด มิได้กำหนดให้พนักงานสอบสวนแจ้งให้ผู้เป็นเจ้าของทรัพย์ที่

ถูกยึดทราบ  แม้พนักงานสอบสวนไม่ได้แจ้งใหเจ้าของทรัพย์ที่ถูกยึดทราบ

ก็ตาม กำหนดเวลาดังกล่าวก็เริ่มนับแล้ว

การขอให้ศาลสั่งคืนของกลางที่ศาลสั่งริบตามประมวลกฎหมายอาญา

มาตรา 36 เป็นส่วนหนึ่งของคดีอาญา เมื่อผู้ร้องอ้างว่าผู้ร้องมิได้รู้เห็นเป็นใจ

ด้วยในการกระทำความผิดของจำเลย จึงเป็นหน้าที่ของผู้ร้องที่จะต้องนำสืบ

ให้ไดความตามที่กล่าวอ้าง

ข้อสังเกต

1) ผู้ร้องขอคืนของกลางจะยกข้อต่อสู้ของจำเลยในคดีเรื่องอื่นอันมิใช่ประเด็น

เรื่องขอคืนของกลางมายกเป็นข้อต่อสู้โจทก์ไม่ได้

2) คำร้องขอคืนขอกลางต้องยื่นต่อศาลภายในหนึ่งปี นับแต่วันคำพิพากษา

ถึงที่สุด

3) ผู้ร้องขอคืนของกลงมีหน้าที่นำสืบตามที่กล่าวอ้างในคำร้องขอคืน

ของกลางที่ศาลริบ


ฎ 1995/2547 ขณะเกิดเหตุผู้ร้องให้บริษัท อ.เช่ารถยนต์บรรทุกของกลาง

ไป และเนื่องจากเป็นการเช่ารถพร้อมพนักงานขับรถมีกำหนด 1 ปี

ชำระค่าเช่าเป็นรายเดือน เจ้าของรถผู้ให้เช่าย่อมไม่ได้รับประโยชน์เพิ่มขึ้น

จากการที่รถต้องบรรทุกน้ำหนักเพิ่มขึ้น เพราะไม่ได้คิดค่าเช่าตามอัตรา

น้ำหนักบรรทุก ทั้งยัง มีข้อสัญญาห้ามผู้เช่านำรถที่เช่าไปใช้ในทางที่ไม่ชอบ

ด้วยกฎหมายอีกด้วย ผู้ร้องจึงมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำผิดของ

จำเลย

ข้อสังเกต ผู้มีสิทธิร้องขอคืนของกลางต้องมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการ

กระทำความผิด เมื่อผู้ร้องเป็นเพียงผู้ให้เช่าทั้งในสัญญาเช่าทั้งในสัญญาเช่า

ยังห้ามนำรถที่เช่าไปใช้ในทางที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เมื่อผู้เช่านำรถไปใช้

กระทำผิด ผู้ร้องจึงขอคืนรถได้







Credit : The Justice Group กลุ่มพลังวิชาการเพื่ออนาคต , เจาะหลัก-ฎีกา

อาญา ติวเข้ม 3 สนามสอบ เล่ม 1

4 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ17 สิงหาคม 2554 เวลา 14:35

    ขอบคุณครับ ขออีก

    ตอบลบ
  2. ผมโดนศาลอุทรณ์ ตัดสินมีอาวุธปืนและพกพาอาวุธปืน ใช้อาวุธปืนขู่ทำร้ายให้ตกใจกลัว ตัดสิน จำคุก 9 เดือน ไม่รอ ชั้นฎีกาต้องทำอย่างรัยถึงจะรอด หรือ ให้รอลงอาญาครับ ขอบคุณครับ

    ตอบลบ
  3. มีแนวทางแก้ไขอย่างรัยครับ

    ตอบลบ
  4. ลองเล่นสล็อต pg รวมสล็อตทดลองเล่น มีความเรียบง่ายและสนุกสนานที่นำเสนอให้ผู้เล่นได้สัมผัสประสบการณ์ pg ที่น่าตื่นเต้นและมีความสนุกสุดๆ ที่ไม่ยุ่งยากเลยทำให้ทุกคนสามารถเข้ามาเล่นได้

    ตอบลบ